ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
ลูกหมี
Join: 10 สค. 2005 ตอบ: 2858 ที่อยู่: เขาพาง จ.ชุมพร
|
ตอบ: ส. มีค. 18, 2006 10:14 am ชื่อกระทู้: Epsilon 5 ผ่าน DULV Test |
|
DULV (Deutsche Ultraleichtflugverband)
เป็นสถาบันการทดสอบร่ม สำหรับบินพารามอเตอร์ จาก เยอรมัน
ถ้าเป็นร่มร่อน ก็ทดสอบโดย DHV อย่างที่เรารู้จักกัน
ซึ่งเป็นสถาบันการทดสอบร่มร่อน จาก เยอรมันเช่นกัน
ในการบิน Paramotor จะใช้สายไรเซอร์ สำหรับบิน Paramotor มาเปลี่ยน
และเมื่อบินกับ Paramotor น้ำหนักในการบินต่ำสุดจะเพิ่มอีก 20 kg
น้ำหนักในการบินสูงสุดจะเพิ่มอีก 60 kg
EPSILON 5 25 : 85 - 148 kg
EPSILON 5 28 : 98 - 166 kg
EPSILON 5 31 : 116 - 190 kg
และตอนนี้ Advance ก็กำลังทดสอบ Omega7
ซึ่งเป็นร่มแข่ง รุ่นล่าสุด ที่กำลังจะออกมาในเร็วฯนี้
ดูข้อมูลเพื่มเติมได้ที่
http://www.thaiparagliding.com
มาพูดต่อถึงเรื่องร่มร่อน
ประสิทธิภาพในการบินก็ใช้ย่อย ทั้งที่เป็น DHV 1-2
ดูฯแล้ว จะสูงกว่า Sigma 5(DHV2) อีก
และที่สำคัญ มีความปลอดภัยสูงกว่า Sigma 5
มีน้ำหนักเบากว่า Sigma 5 ประมาณ 1 kg
เพราะผ้าร่มด้านล่างจะใช้วัสดุที่เบากว่าด้านบน ทำให้ตั้งง่ายขึ้น
ถ้าเป็น Sigma 5 ผ้าร่มด้านบนและล่างจะเหมือนกัน
Sigma 5 (DHV2) ออกมาในปี 2001
Epsilon 5 (DHV1-2) ออกปลายปี 2005
จำนวนเซล
Sigma 5 58 cells
Epsilon 5 50 cells
ความเร็ว
Sigma 5 37/48 km/h
Epsilon 5 38/50 km/h
อัตราการซิ่ง
Sigma 5 1.15 m/s
Epsilon 5 1.2 m/s
อัตราการร่อน
Sigma 5 8.5
Epsilon 5 8.8
ความรู้สึกในการบินเป็นอย่างไร ต้องถามพี่คิมดู
เพราะอาทิตย์ที่แล้ว บินนานกว่าเพื่อน และบินไปหลายชั่วโมง :lol:
|
Epsilon 5 |
|
Omega 7 |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
กรู๋ บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: อา. มีค. 19, 2006 9:13 am ชื่อกระทู้: |
|
ความรู้สึกของคิมตอนนี้คงจะเจ็บขานิดหน่อยเท่านั้นเองครับ555 :P
|
|
กลับไปข้างบน |
|
อ้น บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: อา. มีค. 19, 2006 4:52 pm ชื่อกระทู้: |
|
จ้างก็ไม่เชื่อ อย่างงี้ต้องมีหลักฐานมายืนยัน(รูปมีไหมรูป)ส่งมาดูหน่อยจ้า
|
|
กลับไปข้างบน |
|
จ่าแม็ค
Join: 10 สค. 2005 ตอบ: 970
|
ตอบ: อา. มีค. 19, 2006 10:31 pm ชื่อกระทู้: |
|
จัดให้ตามคำขอ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: จ. มีค. 20, 2006 7:16 am ชื่อกระทู้: |
|
นี้มันไม่ใช้รูป คิม มันเป็นรูปสุมหัวงู ดูอะไรกันอยู่ ใช้ไหมพี่จ่ากอง
|
|
กลับไปข้างบน |
|
กรู๋ บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: จ. มีค. 20, 2006 2:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
โปรดสังเกตุหน้าพี่อ้น แสดงอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดพร้อมนิ้วมือปริศนาที่ยื่นมาเกือบเข้าปาก :D :P
|
|
กลับไปข้างบน |
|
อ้น บุคคลทั่วไป
|
ตอบ: จ. มีค. 20, 2006 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
โอว์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โยมกู๋กำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า อาตมากำลังฝึก วิชาที่ว่าด้วย การมี"อุเบกขา" ต่างห่างหล่ะโยม
|
|
กลับไปข้างบน |
|
u-t83
Join: 19 กย. 2005 ตอบ: 4 ที่อยู่: 46ม.6ถ.สายเอเซียต.หันตราจ.อยุธยาฯ
|
ตอบ: พ. มีค. 22, 2006 4:19 pm ชื่อกระทู้: รุ่งครับ |
|
ขอความรู้เพิ่มด้วยครับ เปลี่ยนสายไรเซอร์แล้ว ทำไมถึงรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้อีกครับ อยากรู้จริงๆๆ ท่านใดทราบ ช่วยตอบด้วยครับ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
ลูกหมี
Join: 10 สค. 2005 ตอบ: 2858 ที่อยู่: เขาพาง จ.ชุมพร
|
ตอบ: พฤ. มีค. 23, 2006 8:58 am ชื่อกระทู้: |
|
ผมบินแต่ร่มร่อน ไม่เคยบิน Paramotor
ขออธิบายเท่าที่พอรู้นะครับ
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หมายถึงช่วงน้ำหนักที่เหมาะสม
เมื่อนำมาบินกับ Paramotor เพื่อให้การบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ไม่ใช่ว่า สายไรเซอร์ที่เปลี่ยน จะทำให้ร่มรับน้ำหนักได้มากขึ้น
เพราะโดยปกติ ร่มก็รับน้ำหนักได้ประมาณ 6 เท่าของน้ำหนักปกติที่บินอยู่
โดยไม่เกิดความเสียหายแก่ร่มอยู่แล้ว(หมายถึงร่มใหม่นะครับ)
ถ้าเป็นร่มสำหรับบินผาดโผน ก็จะรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 12 เท่า(12G)
เพราะเลือกใช้สายร่มที่ทนทานกว่าปกติด้วย เช่น สาย Liros PPSL
ถึงแม้ว่าร่มจะไม่เป็นอะไร แต่คนที่บินจะรับแรง G สูงฯได้หรือเปล่าเท่านั้นแหละ
การบินควง อาจทำให้ร่มต้องรับน้ำหนักเพิ่มเป็น 3 เท่า ของน้ำหนักที่บินปกติ
และความทนทานในการรับน้ำหนักก็จะลดลง ตามอายุและสภาพการใช้งานด้วย
สายไรเซอร์ สำหรับ Paramotor เป็นเพียงการปรับตำแหน่ง ของสายหลักต่างฯ
ให้มีการ Trim และ Accelereter ให้เหมาะสมกับการบิน Paramotor
เพราะ Paramotor ใช้เครื่องยนต์ ดันร่มวิ่งเข้าหาอากาศ
ไม่เหมือนร่มร่อน ที่รอให้อากาศวิ่งเข้าหาร่ม ซึ่งบางวันอาจรอจนไม่ได้บิน
จึงต้องมีการปรับสายต่างฯให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน
ส่วนช่วงน้ำหนักที่ระบุมา สำหรับร่มร่อน
ก็เพื่อให้มีอัตราการร่อนที่ดี โดยยังคงความปลอดภัยไว้
ถ้าน้ำหนักน้อยไป ร่มก็พับได้ง่าย และมีการตอบสนองช้า
น้ำหนักมากไป ก็ร่อนไม่ดีอีก สูญเสียความสูงเร็ว ตอบสนองเร็วไป
เวลาเกิดปัญหาก็เกิดเร็วมาก ต้องแก้อย่างเร็วด้วย
สายร่มที่ทนน้อยสุด ก็คงเป็น Kevlar หรือ Armid ซึ่ง พัฒนาโดย Dupont
มีความแข็งกว่า nylon และ polyester ประมาณ 3 เท่า
ไม่ยืดไม่หด ทนไฟ 750 F แต่ทนการถลอก และ แสง UV ไม่ค่อยดี
ดีขึ้นมาหน่อย ก็เป็น SuperAramid หรือ TechnoraAramid
ซึ่งทนการถลอก และ แสง UV ได้ดีขึ้นประมาณ 30%
ส่วน Dyneema หรือ Spectra ก็คือ ตัวเดียวกัน
Dyneema ผลิดโดย DSM(Nertherland) Spectra ผลิตโดย Allied Signal
มีความแข็งแรง และทนทานต่อการถลอก การขัดสีได้ดีขึ้น
แต่จะสูญเสียความทนทานเมื่อโดนความร้อนมากฯ และหดได้ง่ายด้วย
สาย Liros PPSL เป็นสาย Dyneema ชนิดใหม่ ที่พัฒนาขึ้น
ให้เส้นเล็กลง มีความแข็งแรง ไม่ค่อยหด เหมือน Dyneema หรือ Spectra ปกติ
แต่ถ้าไม่ใส่ปลอก ก็เสื่อม เพราะแสง UV ได้ง่าย และยังเย็บยากกว่าสายปกติอีก
บริษัทร่มจึงเลือกใช้สายหลายชนิด มาประกอบกัน ในแต่ละตำแหน่ง
เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และความทนทานที่เหมาะสม
|
การใช้รถลาก ทั้งแบบกระชาก และการรับน้ำหนักที่คงที่ เพื่อทดสอบ Load Test |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|